ในตลาดสกินแคร์ มีเนื้อผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้มากมาย หากเราต้องการสร้างแบรนด์สกินแคร์
เราควรศึกษาว่าเนื้อผลิตภัณฑ์แต่ละแบบ เหมาะสมกับผิวแบบใด เมื่อสั่งผลิตแล้ว ผลิตภัณฑ์ของเราเหมาะสมกับผิวลักษณะใดบ้าง
ประเภทของเนื้อผลิตภัณฑ์ แบ่งออกได้หลักๆ 4 ประเภท
1. เนื้อเซรั่ม เนื้อเซรั่มจะโดดเด่นในเรื่องของสาร Active ที่มีความเข้มข้นสูง แต่เน้นความเป็น water base จึงทำให้เนื้อเซรั่มสามารถเข้าบำรุงและซึมลงชั้นผิวได้เร็ว โดยไม่เคลือบอยู่บนชั้นผิวมากจนเกินไป จากความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ในเนื้อเซรั่ม ทำให้เห็นผลการใช้งานได้รวดเร็วกว่าเนื้อเจลและครีม ซึ่งนั่นมีผลทำให้ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเซรั่มจะมีราคาที่สูงกว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น เนื้อเซรั่ม ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่าน้ันเซรั่มยังมีสูตรหลากหลายให้สามารถเลือกใช้ตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเซรั่มบูสต์ผิว เซรั่มลดรอยสิว เซรั่มหน้าใส เซรั่มกระชับรูขุมขน เซรั่มลดสิว เซรั่มหน้าขาว เป็นต้น
คุณสมบัติที่โดดเด่นของเซรั่ม
เน้นการฟื้นบำรุงแก้ไขปัญหาผิวที่ได้ตรงจุด
มีสารบำรุงในตัวที่เข้มข้นมาก ใช้ในปริมาณ 2 – 3 หยด ก็สามารถให้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวได้ล้ำลึก
มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ทำให้เมื่อทาลงไปบนผิว สบายผิว ไม่หนักหน้า
เนื้อเซรั่มมีความบางเบา ไม่ส่งผลสกัดกั้นการทำงานของครีมบำรุงตัวอื่น ๆ ในทางกลับกัน กลับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำพาสารบำรุงในผลิตภัณฑ์ให้ซึมลึกลงไปสู่ผิวได้มากกว่า
2. เนื้อเจล โดยโครงสร้างจะมีลักษณะเด่น คือ มีประสิทธิภาพในการอุ้มน้ำได้ดี
มีส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันอยู่น้อย ซึมซาบเร็ว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยไม่ทิ้งคราบมัน และไม่อุดตันผิว เนื้อเจลจะเข้ากับสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศไทยได้ดี สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่ผิวมัน เป็นสิวง่าย และสามารถใช้เป็นตัวแรกๆ ก่อนลงผลิตภัณฑ์อื่นที่มีความเข้มข้นสูงกว่า
คุณสมบัติที่โดดเด่นของเจล
มีส่วนประกอบของน้ำเป็นหลัก ทำให้มีน้ำหนักเบาและซึมเข้าผิวได้ง่าย ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยไม่ทิ้งคราบมันไว้
สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันและผิวผสม เพราะเป็นผิวที่มีลักษณะของรูขุมขนกว้าง มีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าผิวประเภทอื่น เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเจล จะไม่ไปสร้างความอุดตันให้กับผิว
เนื้อสัมผัสชนิดนี้มักมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิกที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก ลดปัญหาผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำ
3. เนื้อครีม เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำและน้ำมัน นำมาผ่านกระบวนการผสมรวมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นเนื้อครีมข้น เนื้อสัมผัสหนาแน่นกว่าเซรั่ม มีลักษณะค่อนข้างขุ่น สีอาจจะแตกต่างกันไปตามส่วนผสมในตัวครีม เนื้อครีมจะให้ความรู้สึก
ชุ่มชื่นทันทีเมื่อทาลงบนผิว แต่จะใช้เวลาซึมสู่ผิวนานกว่าเนื้อชนิดอื่นๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพผิวแห้ง หรือช่วงที่ผิวต้องการความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ
แม้เนื้อครีมจะมีความหนักผิวมากกว่าเซรั่ม แต่ก็จำเป็นต้องทาเนื้อครีมกลุ่มมอยซ์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ถึงแม้ผู้ที่มีผิวมัน จะกังวลว่าครีมจะเพิ่มความมันบนผิว ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ผิวมันอยู่ในสภาวะขาดน้ำ และสูญเสียความชุ่มชื้นในผิวได้ นั่นยิ่งทำให้ผิวผลิตน้ำมันออกมาบนผิวมากกว่าปกติ เพื่อทดแทนความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป แต่ด้วยความเข้มข้นของสารสกัดที่น้อยกว่า ทำให้เมื่อเทียบกับเซรั่มแล้วเนื้อครีมจะมีราคาที่ถูกกว่า
คุณสมบัติที่โดดเด่นของครีม
มีเนื้อสัมผัสที่ข้น ทำให้สร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างดี
ทำหน้าที่เป็นตัวเคลือบผิวบาง ๆ ไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำออกจากผิว
เป็นตัวช่วยปิดผิวไม่ให้เซรั่มที่ทาไปแล้ว หรือน้ำในผิวสูญเสียออกไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว ในผู้ที่มีผิวมันอาจจะมองหาเนื้อครีมบำรุงที่มีความบางเบาลงมาจากครีมบำรุงทั่ว ๆ ไป
4.เนื้อโลชั่น มีลักษณะคล้ายเนื้อครีมแต่มีความเหลวมากกว่า ทำให้เกลี่ยง่าย กระจายตัวได้ดี เมื่อสัมผัสแล้วไม่รู้สึกหนักผิว สามารถเพิ่มสารสกัดได้หลากหลาย ส่วนใหญ่จึงนิยมนำไปใช้สร้างผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย โดยเพิ่มสารสกัด จำพวกวิตามินและสารให้ความกระจ่างใสทำให้ผิวแลดูสุขภาพดี เนื้อโลชั่นมีประสิทธิภาพในการเคลือบผิวเพื่อป้องกันการระเหยของความชุ่มชื้นได้ดี จึงเหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์อยู่กลางแจ้ง
คุณสมบัติที่โดดเด่นของเนื้อโลชั่น
มีลักษณะคล้ายครีมอย่างมาก แต่จะมีส่วนประกอบของน้ำมากกว่าเนื้อครีม ทำให้สามารถเพิ่มส่วนผสมของสาร Active Ingredients, วิตามิน
หรือสารสกัดบำรุงผิวชนิดอื่น ๆ ลงในเนื้อโลชั่น ซึ่งจะทำให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงของผิวมากขึ้น
ผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง อาจจะเริ่มจากการศึกษาว่า กลุ่มเป้าหมายเราคือผู้ที่มีผิวลักษณะใด และเหมาะกับการใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใคร หรือหากยังไม่แน่ใจว่าควรเริ่มผลิตเนื้อประเภทใด สามารถปรึกษาและสอบถามโรงงานผู้รับผลิตได้
ซึ่งโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน จะมีบริการให้คำปรึกษากับผู้ที่สนใจอยากสร้างแบรนด์ด้วย
โรงงาน AESTHETIC DEFINITION เรามีบริการเริ่มต้นต้ังแต่ให้คำปรึกษา พัฒนาสูตร ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ตราสินค้า ขึ้นทะเบียนสินค้า มั่นใจได้ในมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ท้ัง ASEAN GMP และ ISO 22716 อีกท้ังยังมีทีมนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ที่คัดสรรสารสกัดที่ดีที่สุดจากทุกมุมโลก ตอบโจทย์เจ้าของผลิตภัณฑ์ในทุกรูปแบบ